อยากประสบความสําเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย

 



ตอน ป 3 เด็กทั้งห้องมี 32 คน ฉันสอบได้ที่ 32 คุณรู้ไหมฉันไม่ต้องแข่งขันกับเพื่อน และเลขที่ที่ฉันได้มานั้น เป็นลำดับ การสอบที่เป็นอิสรภาพ ปราศจากการแข่งขัน วันนั้นฉันเอาสมุดพกไปให้พ่อแม่ฉัน

คุณรู้ไหมเขาทำหน้าตาอย่างไร เขาหัวเราะฉันแล้วบอกฉันว่า

มันน่าจะได้ที่ 33 เพราะ รวมคุณครูประจำชั้นไปอีกหนึ่งคน แล้วเขาก็หัวเราะฉัน ในสิ่งที่ฉันทำ เขาไม่เคยบังคับฉันว่าจะต้องสอบได้เลขที่ดีๆ หรือแข่งขันกับใคร เขาปล่อยฉันเป็นอิสระภาพตามธรรมชาติที่มันเป็น เขาเคยส่งฉันไปเรียนพิเศษนะเพราะฉันอ่านหนังสือไม่ออก

แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไร ให้ดีขึ้นเลยฉันก็ยังคงอ่านไม่ออก ฉันได้แต่ภาวนา ว่าสักวันหนึ่ง คงมีสิ่งมหัศจรรย์ทำให้ฉันสามารถอ่านหนังสือออกได้ หรืออาจจะเป็นการซึมซับ บางสิ่งบางอย่างที่ฉันอาจมองไม่เห็นฉันก็ไม่รู้สินะ

ฉันมองเห็น ผู้ปกครองหลายๆคน ที่ชอบเคี่ยวเข็ญและกดดันลูกของเขา ให้ต้องสอบได้เกรด 4 หรือคะแนนดีๆ และต้องอยู่ในกรอบในระเบียบ มันจึงทำให้ไปกดศักยภาพของเขาเพราะเขาโตขึ้นเขาก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร จะต้องทำตามกฎระเบียบและกรอบแบบแผนที่พ่อแม่วางไว้ให้

บางครั้งเราอาจไม่เป็นตัวของตัวเองและหาตัวเองไม่พบ เพราะส่วนใหญ่จะโดนกดศักยภาพตั้งแต่เล็กๆ จากทั้งครอบครัวคุณครูและสังคมที่คอยคาดหวังให้เด็กๆ จะต้องมีผลการเรียนที่ดี เพื่อจะได้สอบติด ไปทำตำแหน่งดีๆ ตามโรงงานต่างๆหรือสายวิชาชีพต่างๆ

ปัญหาที่พวกเขาเจอนั้นคือ เขาหาตัวตนไม่พบ แล้วมันทำให้พวกคนส่วนมากเป็นโรคซึมเศร้า และไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ แต่จะทำตามสิ่งที่ผู้ปกครอง บอกให้ทำว่า มันดีก็ทำไปตาม สิ่งที่ผู้ปกครองบอกเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้ฟังเสียงหัวใจว่า เราต้องการอะไรกันแน่

นั่นจึงทำให้เป็นปัญหา ที่หลายคน อายุมากแล้วก็ยังหาตัวเองไม่พบว่าตัวเองชอบและต้องการอะไรกันแน่

ความเป็นจริงคือ การเรียนการสอนในโรงเรียน จะถูก สอน จาก คนไม่ค่อยมีเงิน ฉันจึงเน้นทักษะ เกี่ยวกับการ ดึงดูดหรือหาเงิน จากภายนอกซะมากกว่า

ฉันรู้ว่าฉันต้องการอะไรฉันรู้ว่าฉันจะไปไหน ฉันเป็นอิสระจากความคาดหวัง ฉันเป็นอิสระ จากทุกสิ่ง ฉันรู้ว่าฉันมีความสุขในการทำอะไร และถ้าฉันทำอะไรไม่มีความสุขฉันก็จะไม่ทำ มันจึง เป็นเบาะแสนำทางให้ฉันหาตัวเองพบตั้งแต่อายุ 18 ว่าฉันชอบอะไร


ฉันชอบอะไรฉันจะเรียน สิ่งที่ฉันชอบ เช่นฉันชอบเครื่องสำอางฉันจะเรียนเกี่ยวกับเครื่องสำอางอย่างเดียว มันเป็นวิธีที่สำเร็จแบบติดสปีด ไม่ต้องไปเรียนวิชาที่มันไม่จำเป็นต้องใช้ ในการ ทำงานหรือสมรภูมิ การลบแบบของจริง หลายคน เรียนมากมาย พอจะเอานำมาใช้จากวิชาที่เรียนก็ลืมไปหมดแล้ว

ฉันทำตรงกันข้ามกับเขาหมด คือฉัน สนใจอะไรฉันจะเรียนแค่จุดนั้นเท่านั้น เพราะอะไรนะหรอ
ก็ฉันขี้เกียจเรียนไงเล่า ( มันกลับเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ฉันประสบความสำเร็จได้ไว ) เพราะมันตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกและเหลือแต่สิ่งที่จำเป็นต้องเรียนเท่านั้น

เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นสิ่งที่สำคัญก่อนหน้าและหลังเราต้องเรียงลำดับให้ถูกต้องไม่ใช่เรียนทุกวิชาเวลาเรามีจำกัดถ้าอยากประสบความสำเร็จแบบติดสปีดต้องโฟกัสให้เป็น

และถ้าจะเลือกเรียนอะไรสักอย่าง ฉันก็จะเลือกเรียนกับคนที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง และประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ใช่ศาสตราจารย์ที่ท่องตำรา และมาสอน เพราะเขาไม่ได้ลงสมรภูมิ ไม่ได้มึงเปื้อนเลือดมาจริง เขาจะสอนได้ถูกวิธีได้อย่างไรเล่า

บางครั้งฉันก็ไม่ได้คิดไปเอง มีบุคคลระดับโลกที่ก็ได้กล่าวไว้ ในแนวทางเดียวกัน
ใช้เวลาอย่างชาญฉลาด
“การคิดว่าวันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิตเป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่ผมรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักของความคิดที่อาจจะทำให้คุณไขว้เขว ในเมื่อมันเป็นวันสุดท้าย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำตามหัวใจตัวเอง” - Steve Jobs

Line : @michelle (มี @)
ปรึกษาได้ที่ : https://page.line.me/michelle
www.michelleth.com

#อยากประสบความสําเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
#รวยตั้งแต่อายุยังน้อย
#วัยรุ่นไทยที่ประสบความสำเร็จ
#วัยรุ่นหาเงิน
#วิชาสร้างรายได้
#วิชาสำเร็จไว
#จิตวิทยา
#การพัฒนาตัวเอง
#ความสำเร็จ
#วิธีหารายได้ออนไลน์เร่งรัด #ทางรัด #ทางด่วน
#สอนหารายได้ติดสปีด

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม